หมวกสำหรับคุณผู้ชาย มีกี่ประเภท อะไรบ้าง ที่นี่มีคำตอบ!!!

ปัจจุบันแฟชั่นอยู่ในการแต่งกายของทุกเพศทุกวัย ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ซึ่ง หมวก ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้บุคลิกของผู้สวมใส่ดูดีขึ้นได้ การเลือกรูปแบบหมวกที่เหมาะสมจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจตลอดวัน ซึ่งผู้ชายหลายคนอาจไม่มีความชำนาญในการเลือกหมวกสำหรับตัวเอง ในบทความนี้ เราได้รวม 5 ประเภทของหมวก ที่เหมาะกับผู้ชายในวัยและบุคลิกที่ต่างกันมาฝากกัน ดังนี้

  1. Flat cap เป็นหมวกทรงแบน มีปีกด้านหน้าเล็กน้อย ให้ลุคสไตล์วินเทจ เหมาะกับวัย 25-35 ปี ส่วนใหญ่ทำจากผ้า Cotton หรือผ้าลินิน ที่นิยมใช้กันเป็นแบบสีโทนเดียวดูเรียบ หรือเป็นลายสก๊อต เมื่อสวมแล้วจะทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่ ดูสุขุมขึ้น เหมาะกับเสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงยีนส์และรองเท้าหนัง
  2. หมวกปานามา เป็นหมวกที่มีปีกรอบด้าน อาจมีแถบคาดเช่น หมวกขาวแถบสีกรมท่า ทำให้นึกถึงบรรยากาศของการไปเที่ยวทะเล ผู้ชายที่ใช้หมวกแบบนี้จะดูเป็นคนร่าเริง เข้ากับคนอื่นได้ง่าย เหมาะกับเสื้อยืด กางเกงยีนส์ขาสั้น รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าหนังก็ได้ เหมาะกับวัย 25-35 ปี แต่ไม่เหมาะกับการใส่กับเสื้อผ้าที่เป็นทางการหรือไปคุยงานกับผู้ใหญ่
  3. หมวก Beanie Hat เป็นหมวกที่ทำจากไหมพรมถัก ทำให้ดูเป็นผู้ชายที่เป็นมิตร เข้าได้กับทุกคน เหมาะกับวัย 20-30 ปี สามารถสวมหมวกแบบหลวม ๆ คู่กับเสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ สามารถที่จะใส่ไปเดินเล่นได้ทุกที่อย่างมั่นใจ แต่มีข้อเสียตรงที่ทำจากไหมพรม ถ้าเลือกเนื้อผ้าที่หนาเกินไป ก็จะทำให้รู้สึกร้อนได้ โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายนที่อากาศร้อนควรหลีกเลี่ยง
  4. Bucket hat ประเทศไทย เป็นหมวกมีปีกโดยรอบประมาณ 2 นิ้ว เหมาะกับช่วงวัย 20-40 ปี ทำให้บุคลิกดูเป็นตัวของตัวเอง ไม่เหมาะกับคนใบหน้าทรงกลม สามารถใส่กับเสื้อยืดกางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าหนังก็ได้
  5. หมวกเบเร่ต์ เป็นหมวกทรงกลมแบน คล้ายกับที่เราเห็นจิตรกรสวมวาดรูป มักทำมาจากผ้า Cotton หรือกำมะหยี่ เหมาะกับวัย 20-30 ปี สามารถเข้ากับเสื้อผ้าหลายแบบ เช่น วินเทจ เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต กางเกงสแล็ค ยีนส์ ฯลฯ เป็นหมวกที่ใส่ได้หลายโอกาส ไม่ดูเป็นทางการเกินไป

การเลือก หมวก สำหรับผู้ชาย นอกจากจะต้องเลือกให้เข้ากับบุคลิกแล้ว จะต้องลองสวมใส่เพื่อที่จะดูให้เข้ากับรูปทรงใบหน้าและทรงผมด้วย ทั้งนี้ ควรจะพิจารณาถึงเครื่องแต่งกายอื่น เช่น เสื้อ กางเกง เข็มขัด รองเท้า เน็คไท ฯลฯ ที่มีอยู่เป็นส่วนใหญ่ด้วย เพราะจะทำให้สามารถหยิบใช้ได้บ่อย จึงคุ้มค่ากับการซื้อมากยิ่งขึ้น